แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับการสร้าง Web Stories

ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการสร้าง Web Stories เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน เราขอแนะนำให้โฟกัสที่งานสำคัญก่อน และถ้าคุณมีเวลา ก็ลองทำตามแนวทางปฏิบัติที่เราแนะนำได้

การเล่าเรื่อง

แนวทางปฏิบัติแนะนำที่สําคัญสําหรับการเล่าเรื่อง
ให้ความสำคัญแก่วิดีโอ วิดีโอดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าข้อความหรือรูปภาพ จึงควรใช้วิดีโอให้มากที่สุด แล้วเสริมด้วยรูปภาพและข้อความ

แนวทางปฏิบัติแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการเล่าเรื่อง

แนวทางปฏิบัติที่แนะนำสําหรับการเล่าเรื่อง
แสดงมุมมองของคุณ ไปให้ไกลกว่าเพียงข้อเท็จจริง แชร์สิ่งที่คุณคิด บ่งบอกความเป็นคุณในเรื่องราวที่เล่า เล่าด้วยวิธีที่ทุกคนเข้าถึงได้
สร้างโครงเรื่อง สร้างเรื่องราวที่ทำให้ผู้อ่านสงสัยใคร่รู้และอยากติดตามต่อไปเรื่อยๆ นําผู้ใช้ร่วมทางไปด้วยกันโดยให้ข้อมูลบริบทและการเล่าเรื่อง พร้อมจบเรื่องราวโดยสมบูรณ์เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกคุ้มค่าที่ติดตามเรื่องจนจบ

การออกแบบ

แนวทางปฏิบัติแนะนำที่สำคัญสำหรับการออกแบบ
ลดจำนวนอักขระ หลีกเลี่ยงการใส่หน้าที่มีข้อความจำนวนมากหลายๆ หน้า ลดปริมาณข้อความให้เหลือประมาณ 280 อักขระต่อหน้า (ความยาวเท่าทวีต 1 รายการ)
อย่าให้มีอะไรมาบังข้อความ ตรวจสอบว่าข้อความไม่ได้โดนเนื้อหาอื่นในหน้ามาบดบัง หลีกเลี่ยงการใช้ข้อความที่ฝังในเนื้อหา (Burned in Text) เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อความโดนบังเมื่อมีการปรับขนาดข้อความให้พอดีกับอุปกรณ์ขนาดต่างๆ
วางข้อความไว้ในขอบเขตที่มองเห็นได้ ตรวจสอบว่าผู้อ่านเห็นข้อความทั้งหมดใน Web Stories หลีกเลี่ยงการใช้ข้อความที่ฝังในเนื้อหา (Burned in Text) เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อความล้นออกจากกรอบเมื่อมีการปรับขนาดข้อความให้พอดีกับอุปกรณ์ขนาดต่างๆ
ใช้ภาพเคลื่อนไหวอย่างรอบคอบ ทำให้เรื่องราวมีชีวิตชีวาด้วยภาพเคลื่อนไหว แต่ให้หลีกเลี่ยงภาพเคลื่อนไหวที่สร้างความรําคาญหรือซ้ำไปซ้ำมา เพราะอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหนื่อยหน่ายได้

แนวทางปฏิบัติแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการออกแบบ

แนวทางปฏิบัติที่แนะนำสำหรับการออกแบบ
ใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจสำหรับ Web Stories โดยเฉพาะ เมื่อสร้างเรื่องราวที่เดิมสร้างขึ้นสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลอย่างเช่น Instagram, Snapchat หรือ YouTube ขึ้นมาใหม่ อย่าลืมลบคำกระตุ้นการตัดสินใจผู้อ่านที่เป็นของแพลตฟอร์มนั้นๆ โดยเฉพาะ ตรวจสอบว่าผู้ใช้ทำตามการดำเนินการที่แนะนำใน Web Stories ได้
ใช้วิดีโอและรูปภาพแบบเต็มหน้าจอ การใส่เนื้อหาแบบเต็มหน้าจอในเรื่องราวจะช่วยมอบประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้นให้แก่ผู้อ่าน
หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพหรือวิดีโอที่มีความละเอียดต่ำหรือบิดเบี้ยว ใช้รูปภาพที่มีคุณภาพสูงและระมัดระวังเวลาปรับรูปภาพเป็นแนวตั้ง
เพิ่มโลโก้ในปกหน้าแรก ใส่โลโก้ความละเอียดสูงที่บ่งบอกถึงแบรนด์ของคุณ
ทำให้วิดีโอกระชับขึ้น เราขอแนะนำว่าวิดีโอควรยาวไม่เกิน 15 วินาทีต่อหน้าหรือต้องไม่เกิน 60 วินาที
ใส่เสียง ใช้คลิปเสียงคุณภาพสูงที่มีความยาวอย่างน้อย 5 วินาที โดยมีระดับความดังที่สมดุลและตรวจสอบว่าผู้ฟังได้ยินเสียงพูด
ลองใช้การเปลี่ยนหน้าโดยอัตโนมัติสำหรับเรื่องราวที่มีแต่วิดีโอ การเปลี่ยนหน้าโดยอัตโนมัติสำหรับ Web Stories ที่เน้นวิดีโอจะทำให้ประสบการณ์การรับชมเรื่องราวลื่นไหลมากขึ้น

SEO

แนวทางปฏิบัติแนะนำที่สำคัญสำหรับ SEO
มอบเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง เช่นเดียวกับหน้าเว็บอื่นๆ การนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจสำหรับผู้อ่านของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำ โปรดเล่าเรื่องราวที่สมบูรณ์และทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำในการเล่าเรื่องเพื่อดึงดูดผู้อ่าน
ตั้งชื่อเรื่องสั้นๆ ชื่อเรื่องต้องยาวไม่เกิน 90 อักขระ ขอแนะนำให้ใช้ชื่อเรื่องที่สื่อความหมายและยาวไม่เกิน 70 อักขระ
ตรวจสอบว่า Google Search ค้นพบเรื่องราวของคุณได้ อย่าใส่แอตทริบิวต์ noindex ในเรื่องราว เพราะแอตทริบิวต์นี้จะบล็อกไม่ให้ Google จัดทำดัชนีหน้าเว็บและป้องกันไม่ให้หน้าดังกล่าวปรากฏใน Google นอกจากนี้ให้เพิ่ม Web Stories ลงในแผนผังเว็บไซต์ด้วย คุณตรวจสอบได้ว่า Google พบ Web Stories ได้หรือไม่ โดยดูจากรายงานการครอบคลุมของดัชนีและรายงานแผนผังเว็บไซต์ใน Search Console
ทำให้เรื่องราวเป็นหน้า Canonical ในตัว Web Stories ทั้งหมดต้องเป็นแบบ Canonical ตรวจสอบว่า Web Stories แต่ละรายการมี link rel="canonical" ของตัวเอง ตัวอย่างเช่น
แนบข้อมูลเมตา

ตรวจสอบว่า Web Stories เป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านข้อมูลเมตาของเรื่องราว AMP ใส่มาร์กอัปที่คุณใส่ในหน้าเว็บตามปกติ เช่น

แนวทางปฏิบัติแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO

แนวทางปฏิบัติที่แนะนําสําหรับ SEO
ใส่ Structured Data เราขอแนะนําให้ใส่ Structured Data ใน Web Stories เพื่อช่วยให้ Google Search เข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาของ Web Stories
ใส่ข้อความแสดงแทนในรูปภาพ เราขอแนะนำให้ใส่ข้อความแสดงแทนลงในรูปภาพเพื่อให้ผู้คนค้นพบเรื่องราวของคุณได้ง่ายขึ้น
ผสานรวมเรื่องราวลงในเว็บไซต์ของคุณ

เราขอแนะนำให้ผสานรวม Web Stories ไว้ในเว็บไซต์ของคุณ เช่น การลิงก์ Web Stories จากหน้าแรกหรือหน้าหมวดหมู่ ในกรณีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น หาก Web Stories ของคุณเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว และคุณมีหน้าเว็บที่แสดงรายการบทความท่องเที่ยวทั้งหมด ก็ลิงก์ Web Stories ในหน้าหมวดหมู่นั้นได้ หน้า Landing Page พิเศษเพิ่มเติม เช่น www.example.com/stories (ซึ่งจะลิงก์จากหน้าหลัก เช่น หน้าแรกของคุณ) ก็อาจมีประโยชน์เช่นกัน

ใช้ไฟล์แนบของหน้าเรื่องราว AMP คุณใช้ไฟล์แนบของหน้าเรื่องราว AMP ได้เพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมควบคู่ไปกับ Web Stories วิธีนี้ช่วยระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อมูลเจาะลึก หรือเส้นทางต่อไปสําหรับเนื้อหาที่แสดงใน Web Stories
ใส่คําบรรยายในวิดีโอ เพิ่มคำบรรยายวิดีโอลงในวิดีโอเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องราวของคุณได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงคำบรรยายวิดีโอที่ฝังลงในวิดีโอเพื่อให้แน่ใจว่าคำบรรยายจะไม่ทับซ้อนกับเนื้อหาอื่นหรือตกขอบหน้าจอ
เพิ่มประสิทธิภาพเรื่องราวที่มีเพียงวิดีโอ

เราขอแนะนําให้คุณใช้ HTML ที่สื่อความหมายในการสร้าง Web Stories อย่างไรก็ตาม เครื่องมือแก้ไข Web Stories บางรายการอาจส่งออกเรื่องราวที่จัดรูปแบบแต่ละสไลด์เป็นไฟล์วิดีโอที่ใส่ข้อความทั้งหมดในวิดีโอ ในกรณีนี้ เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มข้อความที่ถูกต้องที่จะแสดงภายในวิดีโอเป็นแอตทริบิวต์ title ในองค์ประกอบ amp-video ขอย้ำว่าให้ดำเนินการเช่นนี้เฉพาะเมื่อคุณไม่อาจใช้มาร์กอัปที่สื่อความหมายใน Web Stories ได้

เพิ่มการสนับสนุนสำหรับการแสดงผลในแนวนอน หากต้องการให้ Web Stories ปรากฏในผลการค้นหาของ Google ในเดสก์ท็อป ให้เพิ่มการสนับสนุนสำหรับการแสดงผลในแนวนอน

ด้านเทคนิค

แนวทางปฏิบัติแนะนำที่สําคัญด้านเทคนิค
ทำให้เรื่องราวเป็นหน้าที่ใช้งานได้ Web Stories ต้องเป็นหน้า AMP ที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงปัญหา AMP ไม่ถูกต้องด้วยการทดสอบ Story โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบ AMP และแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตรวจพบ
อย่าใส่ข้อความในภาพโปสเตอร์ หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพที่มีข้อความที่ฝังในเนื้อหา เนื่องจากข้อความอาจบดบังชื่อเรื่องเมื่อผู้ใช้ดูตัวอย่างเรื่องราวในผลการค้นหา หากผู้ใช้เห็นชื่อเรื่องไม่ชัดเจน ก็มีโอกาสสูงที่จะไม่อ่านต่อ
ใส่ขนาดและสัดส่วนของภาพโปสเตอร์ที่ถูกต้อง ตรวจสอบว่ารูปภาพที่ลิงก์กับแอตทริบิวต์ poster-portrait-src มีขนาดอย่างน้อย 640x853 px และมีสัดส่วนภาพเป็น 3:4
ใส่สัดส่วนภาพที่เหมาะสมสำหรับโลโก้ ตรวจสอบว่ารูปภาพที่ลิงก์กับแอตทริบิวต์ publisher-logo-src มีขนาดอย่างน้อย 96x96 px และมีสัดส่วนภาพเป็น 1:1

แนวทางปฏิบัติแนะนำเพิ่มเติมทางเทคนิค

แนวทางปฏิบัติที่แนะนำด้านเทคนิค
ใส่ og:image เราขอแนะนําให้ใส่ og:image ในแท็ก เพื่อให้ผู้คนค้นพบเรื่องราวของคุณได้ง่ายขึ้น

แหล่งข้อมูลอื่นๆ